หมออยากให้รู้ไว้… ไม่ใช่ทุกสิ่งที่คันจะเป็นหมัดในแมวนะครับ บางทีอาจเป็น “เหา” ได้ครับ

เหาแมว (Felicola subrostratus) เป็น ปรสิตภายนอกเฉพาะในแมว ไม่ติดต่อข้ามสายพันธุ์ไปคนหรือสุนัขครับ มันจะอยู่ตามขนและผิวหนัง ดูดกินเศษขนและเซลล์ผิว ทำให้น้องแมว คัน ขนร่วง เป็นขุย และขนหยาบกระด้าง

🐾 เหามักพบในแมวที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

เช่น ลูกแมว แมวจร แมวป่วยเรื้อรัง หรือแมวที่ไม่ได้เลียขนตัวเองเป็นประจำ ถ้าใช้หวีสางขนละเอียดจะเห็นตัวเล็กๆ สีเหลืองขาวเกาะแน่นอยู่บนขน — นั่นแหละครับ “เหาแมวตัวจริง”

🐈 อาการที่พบบ่อย

• คัน เกาและเลียตัวบ่อย โดยเฉพาะบริเวณหัว คอ และหลัง

• ขนร่วงเป็นหย่อม ๆ หรือขนยุ่งพันกัน ดูไม่เงา

• ขนหยาบ มีขุย หรือสะเก็ดเล็ก ๆ ติดตามโคนขน

• เห็นตัวเหาเล็ก ๆ สีเหลืองซีด / ขาวเคลื่อนไหวช้า ๆ บนขน โดยเฉพาะถ้าส่องด้วยแสง

• แมวบางตัวอาจ ซึม เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ถ้ามีการระคายเคืองมาก

• ลูกแมวหรือแมวป่วยอาจมี ภาวะซีด โลหิตจาง ได้หากเหามากผิดปกติ

💊 การรักษาและป้องกัน

• ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดปรสิตที่ปลอดภัยสำหรับแมว เช่น ยาหยดหลัง หรือสเปรย์

• ควรรักษาทั้งตัว และถ้ามีหลายตัวในบ้านต้องป้องกันพร้อมกัน

• ทำความสะอาดเครื่องนอน พื้น และบริเวณที่แมวนอนอย่างสม่ำเสมอ

🩺 ถ้าน้องมีอาการคัน ขนร่วง หรือดูไม่สบายตัว อย่าพึ่งซื้อยามาใช้เองนะครับ ให้หมอตรวจยืนยันก่อนว่าเป็นหมัด เหา หรือไร — เพราะการรักษาแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน

“สุขอนามัยของขนและผิวหนัง บอกสุขภาพของร่างกายได้มากกว่าที่คิดครับ”

วินิจฉัยและเรียบเรียง: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)

รู้ไหม? ตรวจสุขภาพไม่ได้มีแค่เลือด — กระดูกก็ต้องเช็ก!

💬มอไม่ได้ดูแค่กระดูกหัก แต่ดูทั้ง “โครงสร้าง ความมั่นคง และการเคลื่อนไหว” ของร่างกายสัตว์เลี้ยงเลยครับ หลายคนคิดว่าการตรวจสุขภาพประจำปีคือแค่ตรวจเลือด ฟัน หรือหัวใจ แต่ความจริงแล้ว “ระบบกระดูกและข้อ” ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นพื้นฐานของการยืน เดิน วิ่ง และคุณภาพชีวิตโดยตรง

📸 X-ray (เอกซเรย์) คือหนึ่งในเครื่องมือหลักที่หมอใช้ดูความผิดปกติ เช่น ข้อต่อเสื่อม / กระดูกผิดแนว ขาโก่ง สะโพกหลวม หรือแนวสันหลังคด โรคข้ออักเสบที่ยังไม่แสดงอาการภายนอก ในกรณี ตรวจสุขภาพประจำปี หรือ ก่อนผ่าตัด (Pre-op check) หมอจะใช้ภาพเอกซเรย์เพื่อประเมินแนวกระดูกและอวัยวะสำคัญ (หัวใจ ปอด กระดูกซี่โครง) และอาจวัด “มุมต่าง ๆ” เช่น hip angle, joint congruency เพื่อประเมินความเสี่ยงโรคข้อในอนาคต

💪 แต่ไม่ได้มีแค่เครื่องมือเท่านั้นนะครับ หมอยังมี “maneuver หรือ specific test” ที่ใช้ตรวจด้วยมือ เช่น

– Ortolani test ตรวจภาวะสะโพกหลวมในสุนัขพันธุ์ใหญ่

– Cranial drawer test / Tibial compression test สำหรับตรวจเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าขาด

– Barden’s test, Patellar luxation grading เพื่อดูการเคลื่อนของสะบ้าหรือข้อต่อ

สิ่งเหล่านี้ช่วยให้หมอประเมินสภาพข้อต่อได้แม่นยำยิ่งขึ้นก่อนตัดสินใจรักษา

🧠 และหากต้องการความละเอียดขั้นสูง หมออาจแนะนำ CT scan หรือ advanced imaging เพื่อดูโครงสร้างเชิงลึก เช่น กะโหลก กระดูกสันหลัง หรือช่องจมูก ซึ่งให้ภาพแบบสามมิติ ช่วยวางแผนผ่าตัดหรือประเมินรอยโรคได้ดียิ่งขึ้น

วินิจฉัย: สพ.ญ.ณัฏฏ์ธวรรณ โสภิพันธ์ (หมอพลอย)

เรียบเรียง: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)

“น้องคันหู” ไม่ใช่เรื่องเล็ก!

คันหู เกาหู ส่ายหัวบ่อย อาจไม่ใช่แค่ขี้หูเยอะนะครับ! เวลาน้องหมาหรือแมวคันหู เกาจนแดง หรือส่ายหัวแรง ๆ เจ้าของหลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่จริง ๆ แล้วอาจมี “โรคหูอักเสบ” ซ่อนอยู่ครับ ซึ่งมีหลายสาเหตุเลย เช่น

👂 สาเหตุที่พบบ่อยของอาการคันหู

• ไรในหู (Ear mites) ปรสิตตัวเล็ก ๆ ที่กัดดูดในช่องหู ทำให้คันมาก

• เชื้อรา / ยีสต์ (Malassezia) ชอบอากาศอับชื้นในรูหู

• แบคทีเรีย จากหูสกปรกหรืออาบน้ำแล้วไม่แห้ง

• แพ้ (Allergy) เช่น แพ้อาหาร ฝุ่น หรือหญ้า

• ขนในหูมากเกินไป ทำให้ระบายอากาศไม่ดี

⚠️ สังเกตอาการที่ไม่ควรมองข้าม

• เกาหูบ่อย ส่ายหัวตลอดเวลา

• มีกลิ่นเหม็นจากหู

• ขี้หูสีดำ น้ำตาล หรือเหลือง

• หูแดง บวม หรือมีแผลเลือดซึม

💊 การรักษา

สัตวแพทย์จะตรวจในช่องหูด้วยกล้อง otoscope หรือส่องกล้องจุลทรรศน์หาสาเหตุ จากนั้นจึงเลือกใช้ยาเฉพาะ เช่น

• ยาหยอดฆ่าไร / ต้านเชื้อรา / ยาปฏิชีวนะ

• ยาแก้อักเสบหรือแก้คันเฉพาะจุด

และต้อง ทำความสะอาดหูอย่างถูกวิธีเท่านั้น ห้ามใช้สำลีแหย่เข้าไปในหูเด็ดขาดนะครับ!

✅ การป้องกันง่าย ๆ

• ตรวจดูหูและเช็ดหูสัปดาห์ละครั้ง

• ใช้น้ำยาเช็ดหูสูตรเฉพาะสัตว์เลี้ยง

• ป้องกันไรและหมัดด้วยยาหยดหลังเป็นประจำ

• ระวังอย่าให้น้ำเข้าหูตอนอาบน้ำ

🏥 ในเคสนี้น้องแมวมาหาคุณหมอด้วยว่ามีอาการคันหู สะบัดหัว หมอจึงตรวจช่องหู พบว่ามีการบวมอักเสบ จึงนำขี้หูไปส่องตรวจกล้องจุลทรรศน์ พบว่าไรในหูจำนวนมาก จึงได้มีการหยอดยาป้องกัน ยาหยอดหู และน้ำยาทำความสะอาดหู หลังผ่านไป 10 วัน น้องอาการดีขึ้น ไม่มีอาการคันและไรในหูแล้วครับ

❤️ ถ้าเห็นน้องคันหูบ่อย ๆ อย่ารอให้เป็นแผลก่อนถึงพามาหาหมอครับ “ยิ่งรักษาเร็ว หายไว ไม่ทรมาน” เพราะโรคหูอักเสบเรื้อรังอาจทำให้น้อง หูอื้อ หรือถึงขั้นได้ยินไม่ชัด ได้เลยครับ

วินิจฉัยและเรียบเรียง: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)

ฮัลโลวีนนี้…ระวังให้ดี! ของ “น่ากลัว” สำหรับหมาแมว

วันฮัลโลวีนอาจจะเต็มไปด้วยความสนุก ขนม และการแต่งตัวแฟนซี แต่รู้ไหมครับว่ามีหลายอย่างที่ “อันตราย” สำหรับสัตว์เลี้ยงของเรา

👻 1. ขนมช็อกโกแลต

สาร theobromine และ caffeine ในนั้นเป็นพิษต่อสุนัขและแมว ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาเจียน หรือชักได้

🍬 2. ลูกอมและหมากฝรั่งไร้น้ำตาล

ส่วนผสมที่ชื่อว่า xylitol เป็นพิษต่อสุนัขอย่างรุนแรง ทำให้ตับวายและน้ำตาลในเลือดตก

🕯️ 3. เทียนและของตกแต่ง

แมวที่ชอบปีน หรือหมาที่ชอบดม อาจทำเทียนล้ม เกิดไฟไหม้ หรือกลืนเศษตกแต่ง เช่น พลาสติกหรือริบบิ้น

🧛‍♂️ 4. ชุดแฟนซีสัตว์เลี้ยง

แม้จะน่ารัก แต่ถ้าชุดแน่นไปหรือมีชิ้นส่วนเล็ก ๆ อาจทำให้น้องหายใจลำบากหรือกลืนติดคอได้ เลือกชุดที่สบายและไม่รัดตัวจนเกินไป

🏠 5. เสียงดังและคนแปลกหน้า

สุนัขบางตัวตกใจเสียงเคาะประตูหรือเสียงหัวเราะดัง ๆ ควรให้เขาอยู่ในห้องที่สงบ ปลอดภัย

💬 Tips จากคุณหมอ:

“ฮัลโลวีนสำหรับเราคือความสนุก แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงอาจเต็มไปด้วยความเครียดและอันตราย คอยสังเกตพฤติกรรม และเก็บของกินของตกแต่งให้พ้นมือน้อง ๆ เสมอครับ”

🎃 สุขสันต์วันฮัลโลวีนจากคุณหมอและทีมดูแลสัตว์เลี้ยงทุกตัว 💜

เรียบเรียง: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)

หนูตะเภา…เพื่อนตัวกลมเสียงจิ๊ดจ๊าดที่ใครก็หลงรัก!

หนูตะเภา (Guinea pig) เป็นสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กที่นิสัยอ่อนโยน ไม่กัดง่าย โตเต็มวัยจะหนักประมาณ 700–1200 กรัม (ตัวเมียมักใหญ่กว่าตัวผู้เล็กน้อย) อายุเฉลี่ย 5–7 ปี ถ้าดูแลดีสามารถอยู่ได้นานกว่านั้น

🥦 นิสัยและพฤติกรรม

หนูตะเภาเป็นสัตว์ขี้ตกใจแต่เชื่องไว ถ้าได้รับการสัมผัสอย่างอ่อนโยนจะไว้ใจเจ้าของมากขึ้น มักจะส่งเสียง “วี๊ดๆ” หรือ “คุยเบาๆ” เวลาเรียกหาเจ้าของหรือขออาหาร ฟังแล้วใจละลายแน่นอนครับ

🏡 การเลี้ยงดู

• ต้องมีกรงขนาดกว้าง ระบายอากาศดี ปูพื้นด้วยขี้เลื่อยไม้เนื้ออ่อนหรือแผ่นรองดูดซับ

• ให้อาหารเม็ดเฉพาะหนูตะเภา และหญ้าแห้ง (timothy hay) ตลอดเวลา

• เสริม วิตามินซีทุกวัน เพราะหนูตะเภาสร้างเองไม่ได้

• น้ำสะอาดต้องมีตลอด

💉 การดูแลสุขภาพ

• อาบน้ำหรือแปรงขนเป็นครั้งคราวตามสายพันธุ์

• ตัดเล็บสม่ำเสมอ

• ตรวจฟันและน้ำหนักเป็นระยะ เพราะฟันยาวง่าย

• ป้องกันเห็บหมัดได้ด้วย ยาหยดหลังสูตรเฉพาะสำหรับสัตว์เล็ก (ขนาดสำหรับหนูตะเภา) — ห้ามใช้ของแมวหรือหมาโดยไม่ปรึกษาสัตวแพทย์ เพราะอาจเป็นพิษได้! ⚠️

🐹 จำไว้ว่า หนูตะเภาอาจตัวเล็ก แต่หัวใจอบอุ่นมาก ถ้าให้ความรัก ความสะอาด และอาหารที่เหมาะสม เค้าจะตอบแทนด้วยเสียงร้องเบาๆ ที่เต็มไปด้วยความสุขเลยครับ

เรียบเรียง: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)

การช่วยชีวิตสัตว์หลังคลอด: สิ่งที่เจ้าของควรรู้

หลังคลอดเป็นช่วงสำคัญสำหรับแม่และลูกสัตว์ ลูกอาจขาดอากาศหรืออ่อนแรง หากรู้วิธีช่วยเหลือเบื้องต้น จะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ครับ

👃🏻1. ตรวจหายใจลูกสัตว์

เช็ดเมือกออกจากปากและจมูก ถูตัวบริเวณอกให้ลูกกระตุ้นหายใจ หากยังไม่หายใจ อาจเป่าลมเบาๆ สลับกับนวดอกประมาณ 1–2 นาที

🐶2. ดูแลแม่สัตว์

ตรวจว่ารกออกครบหรือไม่ ให้แม่พักในที่อุ่น สะอาด และสงบ เพื่อให้แม่ฟื้นและน้ำนมไหลดี

🔥3. รักษาอุณหภูมิของลูกสัตว์

ห่อผ้าสะอาดหรือวางขวดน้ำอุ่นข้างๆ ตัวลูก อย่าให้ร้อนเกินไป (ในสถานพยาบาลสัตว์จะมีตู้กกอุณหภูมิ ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสม)

🍼4. กระตุ้นให้ดูดนมเร็ว

น้ำนมแรกมีภูมิคุ้มกันสำคัญ ให้ลูกดูดนมภายใน 1–2 ชั่วโมง หากแม่ไม่ให้นม ให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อใช้นมทดแทน

🐱5. สังเกตอาการผิดปกติ

หากแม่มีไข้ ไม่กินอาหาร หรือปวดมาก ลูกตัวเย็น หายใจแรง ไม่ดูดนม รีบพบสัตวแพทย์ครับ

เรียบเรียง: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)

“Modified Perineal Urethrostomy” เปิดทางเดินปัสสาวะใหม่ให้น้องแมว ปัญหา “แมวเพศผู้ปัสสาวะไม่ออก” พบได้บ่อยมาก โดยโรคที่เรียกว่า FLUT disease (Feline Lower Urinary Tract Disease) เป็นหนึ่งในโรคระบบทางเดินปัสสาวะที่พบบ่อยที่สุดในแมวโต โดยพบได้ประมาณ 1–3% ของแมวที่มาพบสัตวแพทย์ต่อปี และในแมวที่เคยอุดตันแล้ว กว่า 30–50% อาจกลับมาอุดตันซ้ำภายใน 6–12 เดือน

🧠สาเหตุที่พบบ่อยคือ

– การอุดตันของ นิ่วหรือเศษผลึกในท่อปัสสาวะ

– การอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ (Cystitis)

– การเกิด พังผืดหรือการตีบแคบของท่อปัสสาวะ หลังการอักเสบหรือใส่สายสวนบ่อย

ในเคสนี้ น้องแมวชิโน่มีอาการปัสสาวะไม่ออกมากกว่า 3 ครั้ง และเริ่มมีพังผืดบริเวณท่อปัสสาวะ ทำให้ใส่ท่อสวนได้ยาก คุณหมอจึงพิจารณาให้ทำการผ่าตัด Modified Perineal Urethrostomy เพื่อ “เปิดรูทางเดินปัสสาวะใหม่” บริเวณใต้ทวารหนักให้น้องสามารถขับปัสสาวะได้สะดวกขึ้น 🚿 หลังการผ่าตัดและพักฟื้นประมาณ 3–4 เดือน น้องกลับมาปัสสาวะได้ปกติ ไม่มีอาการอุดตันหรือเจ็บปัสสาวะอีก 💙

🔍 การวินิจฉัยก่อนการผ่าตัด

สัตวแพทย์จะตรวจโดยใช้หลายวิธีร่วมกัน เช่น

– คลำกระเพาะปัสสาวะและตรวจร่างกาย

– ตรวจปัสสาวะ (Urinalysis) เพื่อดูค่าคริสตัล เม็ดเลือด หรือการติดเชื้อ

– อัลตราซาวด์/เอกซเรย์ เพื่อตรวจหานิ่ว

– ใส่สายสวนท่อปัสสาวะเพื่อตรวจการอุดตัน

หากพบว่าอุดตันซ้ำบ่อย ใส่สายสวนไม่ได้ หรือมีพังผืดปิดทางเดินปัสสาวะแล้ว 🩺

👉 การผ่าตัด Modified Perineal Urethrostomy จะช่วยเปิดทางใหม่ให้ปัสสาวะออกได้สะดวก และลดโอกาสเกิดการอุดตันซ้ำ

หลังผ่าตัด น้องควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น

– ป้องกันการเลียแผล (ใส่ปลอกคอ)

– ดูแลความสะอาดบริเวณก้นและท่อใหม่

– ควบคุมอาหารสูตรปัสสาวะ (urinary diet)

– ตรวจติดตามกับสัตวแพทย์ตามนัด

แม้การผ่าตัดจะช่วยให้ชีวิตน้องดีขึ้นมาก แต่เจ้าของก็ยังต้องดูแลเรื่องอาหารและสุขอนามัยอย่างต่อเนื่อง 💙

ผ่าตัด: สพ.ญ.ณัฏฏ์ธวรรณ โสภิพันธ์ (หมอพลอย)

เรียบเรียง: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)

พยาธิในแมว…เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม!

หลายคนคิดว่า “เลี้ยงแมวในบ้านไม่น่ามีพยาธิ” แต่จริง ๆ แล้วแมวทุกตัว มีโอกาสติดพยาธิได้ จากอาหารดิบ หมัด หรือสัตว์พาหะรอบตัว

💩 อาการที่ควรสังเกต

• อาเจียน (บางทีมีตัวพยาธิออกมาด้วย)

• ถ่ายเหลว และอาจมีถ่ายเป็นตัว หรือเห็นปล้องขยับได้เหมือนเม็ดข้าวสาร

• พุงโตแต่ผอม ขนหยาบ ซีด

• เบื่ออาหาร หรือกินเยอะแต่ไม่อ้วน

• ลูกแมวมักโตช้า ติดพยาธิจากแม่ได้

⚠️ สาเหตุหลัก

• กินของดิบ หรือสัตว์พาหะ เช่น หนู จิ้งจก กบ

• กลืนหมัดขณะเลียขน → ติดพยาธิตัวตืด

• ติดจากแม่หรือน้ำนม

• สิ่งแวดล้อมไม่สะอาด มีไข่พยาธิ

💊 การรักษา

• ใช้ยาถ่ายพยาธิ

• ต้องเลือกยาตามชนิดพยาธิ และอาจต้องถ่ายซ้ำ

• ควบคุมหมัด เพราะหมัดเป็นพาหะของพยาธิตัวตืด

• ห้ามใช้ยามนุษย์ เพราะบางตัวเป็นพิษต่อแมว!

🛡️ การป้องกัน

• ถ่ายพยาธิเป็นประจำทุก 1–3 เดือน

• ควบคุมหมัดและงดอาหารดิบ

• เก็บอึแมวให้ถูกสุขลักษณะ

• ตรวจอุจจาระหรือตรวจสุขภาพประจำปี

🧫 พยาธิที่พบได้บ่อย

• พยาธิตัวกลม (Toxocara cati) → อ้วกออกมาเป็นเส้นยาว ๆ คล้ายสปาเกตตี้

• พยาธิตัวแบน (Dipylidium / Taenia) → ถ่ายออกมาเป็นเม็ดข้าวสารหรือปล้องขยับได้

• พยาธิปากขอ (Ancylostoma) → ถ่ายเหลว ปนเลือด ซีด น้ำหนักลด

เรียบเรียงและวินิจฉัย: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)

“ขนร่วง คัน มีหมัด…อย่ามองข้าม หมัดไม่ใช่แค่ตัวดูดเลือด!”

หมัด (Fleas) เป็นปรสิตภายนอกที่พบได้บ่อยในแมว ทั้งในบ้านและแมวที่ออกไปข้างนอก แม้จะเห็นแค่ตัวเล็ก ๆ กระโดดไว ๆ แต่ผลกระทบของมันมีมากกว่าที่คิดครับ

🔹 1. คันและขนร่วงจากการแพ้น้ำลายหมัด (Flea Allergy Dermatitis)

แมวบางตัวมีอาการแพ้น้ำลายหมัด เมื่อถูกกัดเพียงไม่กี่ครั้งก็อาจเกิดอาการคันรุนแรง เกา ถู ขนร่วง โดยเฉพาะบริเวณโคนหาง หลัง หรือคอ ผิวหนังอักเสบเป็นสะเก็ด และถ้าปล่อยไว้นานอาจติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราแทรกซ้อนได้

🔹 2. หมัดเป็นพาหะของพยาธิและเชื้อโรคอื่น ๆ

หมัดสามารถดูดเลือดจากสัตว์หลายชนิด และนำเชื้อโรคต่าง ๆ มาสู่แมวได้ เช่น

• พยาธิตัวแบน Dipylidium caninum (ติดเมื่อแมวกินหมัดขณะเลียขน)

• เชื้อแบคทีเรีย Bartonella henselae ซึ่งเป็นสาเหตุของ “โรคแมวข่วน (Cat scratch disease)” ที่สามารถติดต่อสู่คนได้

• พยาธิเม็ดเลือดในแมว (Feline Hemoplasmosis) จากเชื้อ Mycoplasma spp. ซึ่งเกาะอยู่บนเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดอาการ ซึม เบื่ออาหาร เหงือกซีด โลหิตจาง โดยเฉพาะในแมวที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีโรคไวรัส FeLV/FIV ร่วมด้วย

🔹 3. ภาวะโลหิตจางในลูกแมว

หมัดจำนวนมากสามารถดูดเลือดจนลูกแมวเกิดภาวะโลหิตจางได้ โดยเฉพาะในลูกแมวอายุน้อยหรือแมวที่ร่างกายอ่อนแอ

🐾 อย่าลืม! ป้องกันไว้ดีกว่ารักษา

การหยอดหรือให้ยาป้องกันปรสิตเป็นประจำ ช่วยป้องกันได้ทั้งหมัด เห็บ และพยาธิภายในบางชนิด พร้อมลดความเสี่ยงของโรคผิวหนังและโรคเลือดที่มากับหมัด

📆 ควรให้เป็นประจำทุกเดือน ผลิตภัณฑ์มีหลายรูปแบบ เช่น ยาหยอดหลัง ยากิน หรือปลอกคอป้องกัน ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเลือกแบบที่เหมาะกับน้องแมวของคุณนะครับ

เรียบเรียงและวินิจฉัย: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)

การผ่าตัดทำหมันสุนัขเพศสำคัญอย่างไร?

การทำหมันสุนัขเพศผู้ (Castration/Neutering) คือการผ่าตัดเอาอัณฑะทั้งสองข้างออก เพื่อหยุดการผลิตฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน) และยับยั้งการสืบพันธุ์ เป็นหนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงระยะยาวที่สัตวแพทย์ทั่วโลกแนะนำ เพราะช่วยลดปัญหาด้านพฤติกรรม โรคระบบสืบพันธุ์ และช่วยลดจำนวนสุนัขจรจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมสุนัขควรทำหมัน?

✅ ด้านสุขภาพ

• ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งอัณฑะ (เพราะตัดออกทั้งหมด)

• ลดปัญหา ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia – BPH) ในสุนัขอายุมาก

• ลดโอกาสเกิด ฝีหนองที่ต่อมลูกหมาก (Prostatitis) และ ถุงน้ำอสุจิ (Prostatic cyst)

• ลดปัญหา ไส้เลื่อนรอบทวาร (Perineal hernia) ที่พบบ่อยในสุนัขเพศผู้ที่มีฮอร์โมนเพศสูงเป็นเวลานาน

✅ ด้านพฤติกรรม

• ลดอาการก้าวร้าว แข่งขัน อาละวาด

• ลดการเห่าอาละวาดเมื่อได้กลิ่นสุนัขตัวเมียเป็นสัด

• ลดพฤติกรรม ฉี่ทำอาณาเขต ในบ้าน

• ลดการ หนีออกนอกบ้าน เพื่อไปตามหาตัวเมีย

• ลดการขึ้นคร่อมสิ่งของหรือคน

✅ ด้านสังคมและความปลอดภัย

• ลดการต่อสู้กับสุนัขตัวอื่น

• ลดความเสี่ยงถูกอุบัติเหตุจากการหนีไปผสมพันธุ์

• ช่วยลดจำนวนลูกสุนัขที่ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงหรือถูกทอดทิ้ง

💊 อายุที่เหมาะสมในการทำหมัน

โดยทั่วไป แนะนำให้ทำเมื่อ:

• สุนัขอายุ 6 เดือนขึ้นไป

• ช่วงก่อนเริ่มแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหรือชอบหนีจากฮอร์โมนเพศ

• สุนัขโตเต็มวัยหรือสูงอายุสามารถทำได้ แต่ควรตรวจสุขภาพก่อนอย่างเหมาะสม

🏥 การดูแลหลังผ่าตัด

• ใส่ปลอกคอกันเลีย (Elizabethan collar) 7–10 วัน

• ให้ยาปฏิชีวนะและยาแก้อักเสบตามสัตวแพทย์สั่ง

• งดอาบน้ำ 7 วัน

• ไม่ให้วิ่ง กระโดด เล่นแรง ๆ ช่วงพักฟื้น

• ดูแผลทุกวัน หากผิดปกติ ต้องพามาตรวจทันที

ผ่าตัด: น.สพ.ธารายุทธ นาศร (หมอจอม)

เรียบเรียง: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)