“ขนร่วง คัน มีหมัด…อย่ามองข้าม หมัดไม่ใช่แค่ตัวดูดเลือด!”

หมัด (Fleas) เป็นปรสิตภายนอกที่พบได้บ่อยในแมว ทั้งในบ้านและแมวที่ออกไปข้างนอก แม้จะเห็นแค่ตัวเล็ก ๆ กระโดดไว ๆ แต่ผลกระทบของมันมีมากกว่าที่คิดครับ

🔹 1. คันและขนร่วงจากการแพ้น้ำลายหมัด (Flea Allergy Dermatitis)

แมวบางตัวมีอาการแพ้น้ำลายหมัด เมื่อถูกกัดเพียงไม่กี่ครั้งก็อาจเกิดอาการคันรุนแรง เกา ถู ขนร่วง โดยเฉพาะบริเวณโคนหาง หลัง หรือคอ ผิวหนังอักเสบเป็นสะเก็ด และถ้าปล่อยไว้นานอาจติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราแทรกซ้อนได้

🔹 2. หมัดเป็นพาหะของพยาธิและเชื้อโรคอื่น ๆ

หมัดสามารถดูดเลือดจากสัตว์หลายชนิด และนำเชื้อโรคต่าง ๆ มาสู่แมวได้ เช่น

• พยาธิตัวแบน Dipylidium caninum (ติดเมื่อแมวกินหมัดขณะเลียขน)

• เชื้อแบคทีเรีย Bartonella henselae ซึ่งเป็นสาเหตุของ “โรคแมวข่วน (Cat scratch disease)” ที่สามารถติดต่อสู่คนได้

• พยาธิเม็ดเลือดในแมว (Feline Hemoplasmosis) จากเชื้อ Mycoplasma spp. ซึ่งเกาะอยู่บนเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดอาการ ซึม เบื่ออาหาร เหงือกซีด โลหิตจาง โดยเฉพาะในแมวที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีโรคไวรัส FeLV/FIV ร่วมด้วย

🔹 3. ภาวะโลหิตจางในลูกแมว

หมัดจำนวนมากสามารถดูดเลือดจนลูกแมวเกิดภาวะโลหิตจางได้ โดยเฉพาะในลูกแมวอายุน้อยหรือแมวที่ร่างกายอ่อนแอ

🐾 อย่าลืม! ป้องกันไว้ดีกว่ารักษา

การหยอดหรือให้ยาป้องกันปรสิตเป็นประจำ ช่วยป้องกันได้ทั้งหมัด เห็บ และพยาธิภายในบางชนิด พร้อมลดความเสี่ยงของโรคผิวหนังและโรคเลือดที่มากับหมัด

📆 ควรให้เป็นประจำทุกเดือน ผลิตภัณฑ์มีหลายรูปแบบ เช่น ยาหยอดหลัง ยากิน หรือปลอกคอป้องกัน ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเลือกแบบที่เหมาะกับน้องแมวของคุณนะครับ

เรียบเรียงและวินิจฉัย: น.สพ.นรภัทร โสภิพันธ์ (หมอพีท)